ครัวคุณต๋อย

เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับข้าวเหนียว”

ทำไมข้าวเหนียวจึงเหนียว ข้าวเหนียวและข้าวเจ้านั้นมีส่วนประกอบสำคัญคือแป้ง คือเป็น กลูโคสโพลีเมอร์ แบบหนึ่ง แต่ แป้งข้าวเหนียวนั้นประกอบด้วยสารที่เรียกว่า อะมิโลเพกติน ทั้งหมดหรือเกือบหมด อะมิโลสนี้ทำให้ข้าวเหนียวเกาะตัวกันเป็นก้อนเมื่อเคี้ยว  

-ข้าวเหนียวให้พลังงานมากกว่าข้าวสวยธรรมดา เรากินข้าวเหนียวเพียง 1 ทัพพี จะสามารถให้พลังงานแก่ร่างกายเท่ากับการกินข้าวสวย 2 ทัพพี การกินข้าวเหนียวจึงทำให้รู้สึกอิ่มท้องนาน

-ข้าวเหนียวยังอุดมไปด้วยสารอาหาร วิตามินกับแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก มีสรรพคุณในการสร้างเม็ดเลือด ทำให้เม็ดเลือดสมบูรณ์   อุดมไปด้วยวิตามินอี ช่วยป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบ ป้องกันปัญหาวุ้นนัยน์ตาเสื่อม ทำให้สมองสงบ คลายเครียด กินแล้วจะรู้สึกผ่อน คลาย ข้าวเหนียวมีฤทธิ์อุ่น ข่วยในการรักษาอุณหภูมิของร่างกายจากอากาศที่หนาวเย็นได้

 – ข้าวเหนียวดำมีสารอาหารมากกว่าข้าวเหนียวขาว เพราะมีสารสำคัญอย่าง โอพีซี  ซึ่งเป็นสารที่สามารถพบได้ในองุ่นดำ องุ่นแดง แอปเปิลแดง ถั่วแดง ถั่วดำ หอมแดง มะเขือม่วง มันสีม่วง เป็นต้น มีคุณสมบัติช่วยชะลอความเสื่อมถอยของร่างกายได้ดี ช่วยบำรุงร่างกายและป้องกันโรคได้หลายโรค ที่สำคัญคือส่งผลดีต่อจิตใจเพราะจะช่วยให้มีอารมณ์ที่สดใส

-วิธีหุงข้าวเหนียวให้อร่อย หากเป็นข้าวเหนียวใหม่จะต้องทำการแช่น้ำก่อนหุง 4-6 ชั่วโมง ส่วนข้าวเหนียวเก่าจะต้องแช่น้ำทิ้งไว้ข้ามคืน เพื่อให้เมล็ดข้าวเหนียวอ่อนนุ่มพอที่จะหุงและสุกได้ แต่หากไม่มีเวลาแช่ข้าว วิธีหุงข้าวเหนียวแบบย่นเวลา โดยให้เทน้ำร้อนต้มพอเดือดจนเกือบร้อน ในอัตราข้าวเหนียว 1 ส่วน น้ำ 2 ส่วน  ทิ้งเอาไว้แค่ 1 ชั่วโมง ก็สามารถนำมานึ่งหรือหุงจนสุก จะได้ข้าวเหนียวที่นุ่มน่าทาน อร่อยไม่แพ้ข้าวเหนียวที่แช่ทิ้งเอาไว้นาน ๆ  

– ข้าวเหนียวให้พลังงานมาก จึงให้อนุมูลอิสระมากตามไปด้วย เมื่อกินเข้าไปมาก จะทำให้ง่วงนอน ในข้าวเหนียวยังมีสารกลูเต็นที่ทำให้เกิดความเหนียวหนืด บางคนอาจเกิดอาการแพ้ได้ กรณีผู้สูงอายุ และเด็ก อาจจะทำให้ติดคอ อุดตันลำไส้ หรือทำให้ อึดอัดท้อง ระบบทางเดินอาหารไม่ปกติได้ จึงไม่ควรกินข้าวเหนียวในปริมาณมาก