เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับดอกมะลิ


“ดอกมะลิ” กลิ่นหอม และเรื่องที่ต้องรู้
มะลิเป็นพันธุ์ไม้ที่มีประวัติผูกพันธ์กับวิถีชีวิตคนไทยมาเนิ่นนาน เป็นดอกไม้สำหรับนำไปไหว้พระ เพราะสีและกลิ่นที่บริสุทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ของวันแม่ เพราะดอกสีขาวเปรียบเหมือนรักที่บริสุทธิ์ การออกดอกตลอดปี กลิ่นหอมนาน เปรียบเหมือนความรักของแม่ที่ยาวนานไม่เสื่อมคลาย ส่วนกลีบเรียงซ้อนอัดแน่น โดยปลายกลีบห่อเข้ากลางดอก เปรียบได้กับ อ้อมแขนของแม่ที่โอบลูกน้อยไว้
1 ดอกมะลิ เป็นส่วนประกอบในตำรับยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติหลายตำรับ โดยเฉพาะ “ยาหอมเทพจิตร” มีดอกมะลิเป็นส่วนประกอบหลักในตำรับกว่า 50% ใช้สำหรับแก้อาการหน้ามืด ตาลายตาพร่าจะเป็นลม ใจสั่น คลื่นไส้อาเจียน และช่วยให้ผ่อนคลาย
2 ในทางสุคนธบำบัด หรือ การบำบัดโดยการใช้กลิ่นหอม จะใช้น้ำมันหอมระเหยของดอกมะลิ ในการกระตุ้นระบบประสาทสำหรับผู้ที่มีภาวะอ่อนล้าทางจิตใจ เฉื่อยชา อ่อนเพลีย ง่วง ช่วยปรับอารมณ์ และสภาพสมดุลของจิตใจให้ดีขึ้น ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น King of essential oils
3 สรรพคุณของดอกมะลิ ช่วยบำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่นโดยนำดอกสด นำมาแช่กับน้ำสำหรับกิน แก้ลมวิงเวียน แก้ร้อนในกระหายน้ำ ดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้อ่อนเพลีย โดยใช้ดอกแห้ง 1.5-3 กรัม ต้มน้ำ หรือ ชงน้ำร้อนดื่ม
4 ข้อแนะนำและข้อควรระวัง ดอกมะลิที่ปัจจุบันมีการนำมาผสมแต่งกลิ่นใบชาเขียว ไม่ควรกินเป็นประจำติดต่อกันนาน ๆ อาจทำให้ความจำไม่ดี ลืมง่าย และในการใช้ดอกมะลิในทางสุคนธบำบัดไม่ควรใช้ในปริมาณที่มีความเข้มข้นมากเกินไปหรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะกลิ่นหอมแรงเกินไป อาจส่งผงให้อาการหน้ามืดวิงเวียน และคลื่นไส้ได้
5 ดอกมะลิ เป็นยารสหอมเย็น ไม่ควรใช้มากเกินไปเพราะอาจไปแสลงกับโรคลมจุกเสียดแน่นได้ส่วนการใช้ในการบำบัดรักษาโรค ไม่ควรใช้ในปริมาณที่มากไป หรือ ใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ สำหรับ เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ป่วยเรื้อรัง