เคล็ดลับก้นครัวเคล็ดลับอื่นๆ 12 ก.ย. 68

สิ่งที่ห้ามทำในการล้างจาน

Share :

รู้แล้ว ต้องไม่ทำ! “สิ่งที่ห้ามทำในการล้างจาน”

การล้างจาน  มีสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะอาจจะก่อให้เกิดเชื่อโรค และเชื้อแบคทีเรียบนพื้นผิวจานชามเพิ่มขึ้นมากมายหลายเท่าจากเดิม ซึ่งอาจจะมีผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงอุปกรณ์ล้างจานด้วย เอให้ถูกสุขลักษณะยิ่งขึ้นนั่นเอง

1 ล้างเสร็จแล้ววางจานซ้อนกัน พฤติกรรมนี้ทำให้บริเวณที่จานสัมผัสกันยังคงชื้นนาน ส่งผลให้เชื้อแบคทีเรียเติบโตได้ดี   ผลสำรวจพบว่า ปริมาณเชื้อโรคบนจานชามที่วางซ้อนกัน อาจมากกว่าจานที่ตั้งแยกกันถึง 70 เท่า วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดเชื้อโรคได้คือ วางจานชามในแนวตั้งบนตะแกรงหรือชั้นวาง เพื่อให้อากาศถ่ายเทและผิวจานแห้งเร็ว ลดโอกาสการสะสมของแบคทีเรีย

2 แช่จานชามทิ้งไว้ข้ามคืน  บางครอบครัวอาจมีพฤติกรรมแช่จานชามลงในอ่างน้ำหลังมื้ออาหาร แล้วค่อยล้างในวันรุ่งขึ้นเพื่อความสะดวก แต่การแช่นานเกินไปทำให้จำนวนเชื้อแบคทีเรียบนพื้นผิวจานชามเพิ่มขึ้นมากมายหลายเท่าจากเดิม แม้จะล้างภายหลังก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะขจัดเชื้อแบคทีเรียที่แพร่กระจายระหว่างการแช่ได้หมด  ทางที่ดีที่สุดคือ ควรล้างจานชามทันทีหลังรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

3 ผสมน้ำยาล้างจานให้เจือจางเพื่อประหยัด  การเจือจางแบบนี้จะทำให้ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคของน้ำยาลดลง และยังเปิดโอกาสให้เชื้อแบคทีเรียเข้าไปเจริญเติบโตในขวดน้ำยาได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เมื่อนำไปใช้ล้างจาน ก็อาจกลายเป็นการกระจายเชื้อโรคโดยไม่รู้ตัว  ควรใช้น้ำยาล้างจานสูตรเข้มข้นในปริมาณที่พอดี และเก็บไว้ในที่แห้ง ปิดฝาให้สนิททุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อให้ได้ผลในการทำความสะอาดที่ดีที่สุด

4 ใช้ฟองน้ำเป็นเวลานานโดยไม่เปลี่ยนใหม่  ฟองน้ำที่ใช้เป็นเวลานานโดยไม่เปลี่ยน อาจกลายเป็น “แหล่งสะสมเชื้อโรค” ได้ มีงานวิจัยระบุว่าในฟองน้ำล้างจานเพียง 1 ตารางเซนติเมตร อาจมีแบคทีเรียนับพันล้านตัว  แม้จะล้างให้สะอาดแค่ไหน แต่หากฟองน้ำหรือผ้านั้นผ่านการใช้งานมานาน ก็ยังเสี่ยงต่อการเกิดการปนเปื้อนข้ามได้อยู่ดี  จึงควรเปลี่ยนฟองน้ำทุกเดือน หรือเมื่อเริ่มมีกลิ่นไม่พึงประสงค์  ฟองน้ำเริ่มยุ่ย  และหลังจากใช้ฟองน้ำเสร็จแล้ว ให้ล้างน้ำเปล่าให้สะอาด บีบให้แห้งแล้วผึ่งลมไว้ให้แห้ง  เพื่อลดความชื้นที่เอื้อต่อการเติบโตของเชื้อโรค