เคล็ดลับก้นครัวเคล็ดลับอื่นๆ 24 เม.ย. 66

ประโยชน์ของกุ้ง

Share :

เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “ประโยชน์ของกุ้ง”

กุ้ง เป็นสัตว์น้ำอีกหนึ่งชนิดที่ไม่มีกระดูกสันหลัง แบ่งได้เป็นกุ้งน้ำจืดและกุ้งน้ำเค็ม กุ้งที่นิยมบิรโภคมีหลายสายพันธุ์ ราคาก็แตกต่างเช่นกัน ในกุ้งมีคุณค่าทางโภชนาการอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย

1 กุ้งอุดมไปด้วยโคลีน ที่สามารถลดระดับของสารโฮโมซิสทีน ซึ่งถ้าร่างกายมีสารชนิดนี้สูงเกินไป อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ นอกจากนั้น ไขมันจากกุ้งส่วนใหญ่คือกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และที่สำคัญคือกุ้งแทบจะไม่มีไขมันอิ่มตัวที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจอีกด้วย

2 กุ้งมีสารอาหารที่จำเป็นหลายชนิด เช่น วิตามินบี 12 ไอโอดีน ธาตุสังกะสี แคลเซียม โคลีน โปรตีน และธาตุเหล็ก สารอาหารเหล่านี้จะช่วยป้องกันการเกิดภาวะโลหิตจางและการสูญเสียมวลกระดูก    

3 กุ้งสุกปริมาณ 100 กรัม มีปริมาณไขมันไม่ถึง 1 กรัม และให้พลังงานเพียง 99 กิโลแคลอรี่ จึงเหมาะกับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักเพราะมีไขมันต่ำและให้พลังงานน้อย แต่มีปริมาณโปรตีนสูงถึง 24 กรัม ซึ่งโปรตีนจะช่วยให้อิ่มได้นาน ควบคุมความอยากอาหาร และช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อไม่ให้หายไปในระหว่างการลดน้ำหนัก ซึ่งจะส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้น้อยลง

4 กุ้งมีสารต้านอนุมูลอิสระชื่อว่าแอสตาแซนธิน เป็นสารสีส้มแดงที่อยู่ในสาหร่ายขนาดเล็กซึ่งเป็นแหล่งอาหารของกุ้ง สารตัวนี้จะช่วยป้องกันการอักเสบจากการถูกอนุมูลอิสระทำลายเซลล์ในร่างกาย และยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้ด้วย เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง

5  กุ้งเป็นอาหารทะเลที่อาจมีสารปนเปื้อนอย่างโลหะหนักหรือไมโครพลาสติกได้ จึงควรเลือกซื้อกุ้งจากแหล่งที่เชื่อถือได้ว่าสะอาดและไม่มีสารปนเปื้อน หากซื้อกุ้งแช่แข็งควรตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ ว่าไม่มีส่วนที่ฉีกขาดหรือเสียหาย และหลีกเลี่ยงกุ้งแช่แข็งที่ละลายแล้ว

6  ก่อนนำกุ้งมาประกอบอาหาร ควรดูให้แน่ใจว่าเนื้อกุ้งไม่เละ เปลือกยังใส หากกุ้งมีกลิ่นแปลก ๆ หรือกลิ่นคล้ายกับแอมโมเนียแสดงว่ากุ้งเสียแล้ว ไม่ควรนำมากินต่อ และควรปรุงกุ้งให้สุกก่อนกิน  หากกินกุ้งแล้วมีอาการอาเจียน ปวดท้อง หายใจลำบาก หรือมีผื่นขึ้นตามตัว ควรไปรีบพบแพทย์ทันที และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกุ้งเป็นส่วนประกอบ