ครัวคุณต๋อย

ประโยชน์ของฟัก

ตามตำรายาไทยจัดให้ฟักอยู่ในจำพวกรสจืดซึ่งเหมาะสำหรับบุคคลที่มีธาตุไฟเป็นเจ้าเรือน หรือกินในฤดูร้อนเพื่อบรรเทาธาตุไฟในร่างกายที่กำเริบขึ้น และมีสรรพคุณทางยา

1 ผลช่วย ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไอ หลอดลมอักเสบ แก้โลหิตเป็นพิษ บวมน้ำ

2 เมล็ด ใช้ลดไข้ แก้ริดสีดวงทวาร แก้โรคทางเดินปัสสาวะ ตกขาว ละลายเสมหะ บำรุงผิว

3 เปลือก ขับปัสสาวะ แก้ท้องเสีย แผลบวมอักเสบ มีหนอง

4ในต่างประเทศก็มีการใช้ฟักเขียวเป็นยาสมุนไพร เช่นกัน อาทิในตำรายาอายุรเวทของประเทศอินเดียใช้เมล็ดฟักเขียวแก้ไอ แก้ไข้ กระหายน้ำ และขับพยาธิ น้ำคั้นผลฟักใช้รักษาโรคชักและโรคเส้นประสาท และในประเทศเกาหลีใช้ฟักเขียวในการรักษาโรคเบาหวาน และขับปัสสาวะ เป็นต้น

ส่วนเมล็ดฟัก สามารถใช้รับประทานได้ มีผลการวิจัยจากสารสกัดในเมล็ดฟักว่ามีสารต้านออกซิเดชันของกรดไลโนเลอิก ช่วยลดอัตราการออกซิเดชันของไขมันเลว และมีสารประกอบฟีนอลและมีฤทธิ์ที่สามารถช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดและโรคมะเร็งได้มากกว่าส่วนอื่น แต่ต้องทำให้สุกก่อนนำมารับประทาน

ส่วนเมล็ดฟัก สามารถใช้รับประทานได้ มีผลการวิจัยจากสารสกัดในเมล็ดฟักว่ามีสารต้านออกซิเดชันของกรดไลโนเลอิก ช่วยลดอัตราการออกซิเดชันของไขมันเลว และมีสารประกอบฟีนอลและมีฤทธิ์ที่สามารถช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดและโรคมะเร็งได้มากกว่าส่วนอื่น แต่ต้องทำให้สุกก่อนนำมารับประทาน

วิธีการใช้ทางยา -รักษาเบาหวาน โดยต้มฟักที่ปลอกเปลือกแล้ว ต้มน้ำกินครั้งละ 60-90 กรัมเป็นประจำ จะทำให้น้ำตาลลดลง

1 ไออักเสบเรื้อรัง ใช้เมล็ดฟัก 15-30 กรัม ต้มกินแต่น้ำ

2 แก้ร้อนใน ไข้สูง ใช้ฟักเขียว 500 กรัม ต้มน้ำให้ได้ประมาณ 3 แก้ว แบ่งกิน 3 ครั้ง ใน 1 วัน

2 #ข้อควรระวัง เนื่องจากฟักเขียวเป็นผักธาตุเย็น ตามตำรายาแพทย์แผนไทย ดังนั้นผู้ที่มีภาวะเลือดเย็นหรือหยางพร่องไม่ควรรับประทานฟักเขียว และสำหรับผู้ที่มีปัญหาในเรื่องระบบขับถ่ายและมีอาการแน่นหน้าอก ไม่ควรรับประทานเมล็ดฟักเขียว