เคล็ดลับก้นครัวเคล็ดลับอื่นๆ 18 ต.ค. 66

ประโยชน์ของคะน้า

Share :

เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “ประโยชน์ของคะน้า”

คะน้า เป็นผักที่รวมแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายหลาย ชนิด  เช่น มีวิตามินเอสูงถึง 419 ไมโครกรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม  และยังมีวิตามินซีอีก  147 มิลลิกรัม ดังนั้น การรับประทานผักคะน้าจึงช่วยเพิ่มสารอาหารที่ดีต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคต่าง ๆ โดยลดโอกาสเกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อ และลดความเสี่ยงอาการเจ็บป่วยโดยรวมได้ อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวพรรณ และสายตา 

-คะน้าป็นผักที่มีปริมาณแคลเซียมค่อนข้างสูงถึง 245 มิลลิกรัม ต่อปริมาณ 100 กรัม จัดได้ว่าคะน้าเป็นอาหารเสริมแคลเซียมที่ดีชนิดหนึ่ง ในคะน้ายังมีโฟเลตและธาตุเหล็กสูง ซึ่งเป็นสารอาหารจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง คะน้าจึงเป็นที่ช่วยบำรุงเลือด และลดความเสี่ยงภาวะโลหิตจางได้

– คะน้ายังประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจช่วยป้องกันความเสียหายของเซลล์ และลดความเสี่ยงการเกิดโรคบางชนิด โดยสารต้านอนุมูลอิสระที่พบปริมาณมากในคะน้า คือ เควอซิทิน และแคมป์เฟอรอล ซึ่งจากการศึกษาพบว่าสารเหล่านี้มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านไวรัสได้

– ในคะน้า มีสารในตระกูลแคโรทีนอยด์อย่างลูทีนและซีแซนทิน มากที่สุดเมื่อเทียบกับผักใบเขียวชนิดอื่น ซึ่งสารเหล่านี้อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคต้อกระจกและโรคจอประสาทตาเสื่อมได้  นอกจากนี้คะน้ายังมีเบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ส่งผลดีต่อการบำรุงดูแลดวงตาในด้านระบบประสาทตาและการมองเห็นได้

-ควรรับประทานคะน้าในปริมาณที่เหมาะสม และควรล้างให้สะอาดทุกครั้งเพื่อขจัดสารเคมีและสิ่งเจือปนก่อนบริโภค โดยการรับประทานคะน้าเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดนั้น ควรรับประทานสด ๆ หรือทำให้สุกเพียงเล็กน้อย เนื่องจากมีการวิจัยพบว่าความร้อนจากการประกอบอาหารจะทำให้คุณค่าทางอาหารของคะน้าลดลง โดยเฉพาะสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ เช่น โพลีฟีนอล เบต้าแคโรทีน และวิตามินซี เป็นต้น