เคล็ดลับก้นครัวเคล็ดลับอื่นๆ 13 ก.พ. 66

สายพันธุ์ส้ม

Share :

เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “สายพันธุ์ส้ม”

1 ส้มสายน้ำผึ้งหรือ ส้มโชกุน เป็นส้มที่มีรสชาติหวานเด่น เปรี้ยวนิด ๆ ชานส้มนุ่ม ให้น้ำส้มปริมาณเยอะ ส้มชนิดนี้ต้องปลูกในพื้นที่มีความเฉพาะเช่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ หรือในพื้นที่จังหวัดยะลา ที่มีอุณหภูมิประมาณ 15-20 องศาตลอดทั้งปีเท่านั้น เนื่องจากส้มชนิดนี้ต้องการระยะเวลาในการสะสมธาตุอาหารนานถึง 8 เดือนแบบพอดี หากนำไปปลูกในพื้นที่อื่น ๆ อาจจะสุกช้าหรือเร็วกว่าซึ่งส่งผลต่อรสชาติของส้ม   ควรเลือกผลที่มีสีเขียวอมส้มที่มีเปลือกบางไม่หนาจนเกินไป เวลาสัมผัสแล้วรู้สึกว่าเนื้อแน่น เต็มลูก ซึ่งเป็นจุดเด่นของส้มสายน้ำผึ้ง

2 ส้มเขียวหวาน เป็นส้มสายพันธุ์จีนที่นำมาพัฒนาต่อยอดออกไปได้หลายสายพันธุ์  มักจะมีชื่อเรียกออกไปตามสวนต่าง ๆ เป็นสายพันธุ์ที่ปลูกได้ง่าย แทบทุกพื้นที่ ให้ผลผลิตดี  วางจำหน่ายตลอดปี  และมีรสชาติแตกต่างกันไปตามพื้นที่เพาะปลูก และฤดูกาลเก็บเกี่ยว ส่วนใหญ่จะมีรสหวานเปรี้ยวคละเคล้ากัน   วิธีการเลือกซื้อ สังเกตจากผิวส้มจะมีเปลือกบาง เวลากดลงไปไม่ยวบ ผลส้มไม่มีร่องรอยปริแตก หรือแมลงเจาะ สามารถเก็บไว้ได้นาน 7-10 วันโดยไม่ต้องแช่เย็น

3 ส้มแมนดาริน ส้มนอกนำเข้า รสชาติดีมีแหล่งผลิตสำคัญอยู่ในประเทศออสเตรเลีย ไต้หวัน และประเทศญี่ปุ่น เป็นส้มที่มีเปลือกหนา มีกากใยสูง ชุ่มฉ่ำ น้ำเยอะ ให้รสชาติหวานโดด คล้ายกับน้ำผึ้ง  จัดอยู่ในประเภทส้มมงคลที่ชาวจีนทั่วโลกนิยมใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ  วิธีการเลือกซื้อ เลือกส้มที่มีสีเหลืองทอง ผิวขรุขระ เมื่อสัมผัสไม่แข็งมาก มีน้ำหนักพอดี สังเกตส่วนของก้นส้มไม่มีการปูดบวมถือเป็นส้มที่มีคุณภาพ

4 ส้มวาเลนเซีย เป็นส้มเปลือกหนา ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการพัฒนาสายพันธุ์ส้มวาเลนเซียจากประเทศสเปนในสหรัฐอเมริกา เมื่อประสบความสำเร็จได้ตั้งชื่อตามเมืองที่มีส้มหวานรสชาติดีที่สุดก็คือเมืองวาเลนเซียเพื่อเป็นเกียรติ โดยที่ส้มสายพันธุ์นี้ไม่เคยเพาะปลูกในประเทศสเปนเลย ส้มชนิดนี้ ผิวไม่อ่อนและแข็งจนเกินไป ไร้เมล็ด ให้น้ำส้มในปริมาณที่เยอะกว่าส้มชนิดอื่น  วิธีการเลือกซื้อ ให้สัมผัสและสังเกตผิวส้มว่าไม่มีร่องรอยการแตกปริ เนื่องจากเป็นส้มเปลือกหนาที่แมลงหรือเชื้อโรคต่าง ๆ ไม่สามารถเจาะผ่านผิวเข้าไปทำลายเนื้อในได้ จึงควรเลือกผลที่สมบูรณ์