เคล็ดลับก้นครัวเคล็ดลับอื่นๆ 6 มิ.ย. 65

ข้อควรระวังในการรับประทานเมล็ดฟักทอง

Share :

เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “ข้อควรระวังในการรับประทานเมล็ดฟักทอง”

เมล็ดฟักทอง มีสารต้านอนุมูลอิสระ และแร่ธาตุที่จำเป็นหลายชนิด แต่อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงจากวิธีรับประทานที่ไม่เหมาะสมได้  เช่น

1 ทำให้ปวดท้อง เพราะในเมล็ดฟักทองมีน้ำมันที่มีไขมันสูง ซึ่งสามารถส่งผลให้เกิดอาการปวดเกร็งท้องได้ จึงไม่ควรกินเมล็ดฟักทองขณะท้องว่าง แต่ควรกินร่วมกับอาหารชนิดอื่นๆ

2 หากปรุงอาหารด้วยเมล็ดฟักทองอย่างผิดวิธี อาจไม่ได้รับสารอาหารเท่าที่ควร เช่น ใช้ความร้อนสูงเกินไป จะทำให้สารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินบี วิตามินซี ถูกทำลายออกไป

3 ส่งผลต่อระดับเกลือแร่ในร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องใช้ยาขับปัสสาวะ  ผู้ป่วยโรคไต ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด เมล็ดฟักทองอาจทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่ดีพอ จนไม่สามารถปัสสาวะออกมาได้มากอย่างที่ควร

4 ไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก เด็กเล็กช่วงวัยอนุบาลยังไม่ควรกินเมล็ดฟักทอง เพราะอาจทำให้ปวดท้อง อาเจียน หรือท้องเสียได้

5 เกิดอาการแพ้ มักเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก หากกินแล้วมีอาการผื่นลมพิษ ปวดหัว ปากบวม คอบวม หายใจลำบาก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

6 ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ เมล็ดฟักทองอาจช่วยป้องกันโรคเบาหวานได้ แต่ในผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่ อาจทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำลงไปอีก

7  ไม่เหมาะกับผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตต่ำ เมล็ดฟักทองเป็นตัวการที่สามารถเข้าไปปรับระดับความดันโลหิตให้ต่ำจนเป็นอันตรายได้ หากเป็นผู้ป่วยโรคความดันโลหิต ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานเมล็ดฟักทองเพื่อความปลอดภัย

8 ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เมล็ดฟักทองเป็นอาหารว่างในบางครั้งได้ แต่ในผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักจริงจัง  เมล็ดฟักทองก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่จะกินได้อย่างสม่ำเสมอเพราะเมล็ดฟักทองมีไขมันสูงที่อาจเพิ่มน้ำหนักได้ และยังเป็นอาหารที่ต้องระวังในผู้ป่วยโรคเบาหวานด้วย

เคล็ดลับอื่นๆ อื่นที่คุณอาจสนใจ