เคล็ดลับก้นครัวเคล็ดลับอื่นๆ 11 เม.ย. 65

ข้อควรรู้เกี่ยวกับคอมบูชา

Share :

เคล็ดไม่ลับกับครัวคุณต๋อย ตอน “ข้อควรรู้เกี่ยวกับคอมบูชา”

ข้อควรรู้เกี่ยวกับคอมบูชา

คอมบูชาหรือ ชาหมัก เกิดจากการนำน้ำชาอย่างชาดำหรือชาเขียว น้ำตาล จุลินทรีย์ และยีสต์ ไปหมักรวมกันอย่างน้อย 1 สัปดาห์ จนออกมาเป็นเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์เป็นกรด โดยมีส่วนผสมหลักเป็นกรดน้ำส้ม เป็นเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือมีในปริมาณ 0.5% ซึ่งถือว่าน้อยมาก มีค่ากาเฟอีน 12.4 – 41.6 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ระหว่างการหมักอาจทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จึงดูเหมือนเครื่องดื่มอัดแก๊ส มีรสเปรี้ยวนำ รสหวานเล็กน้อย

1 มีสรรพคุณเช่นเดียวกับชา แต่ยังประกอบด้วยโพรไบโอติกส์ หรือเชื้อจุลินทรีย์ และยีสต์ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย  คอมบูชาจะต้องไม่ผ่านระบบการพาสเจอร์ไรซ์   ที่ต้องใช้ความร้อนเพื่อทำลายเชื้อจุลินทรีย์ เพราะว่าประโยชน์ของคอมบูชามาจากจุลินทรีย์เหล่านี้  

2 คอมบูชาช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ทำให้ระบบนิเวศของจุลินทรีย์ในลำไส้เกิดความสมดุล การมีจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้มาก ยิ่งช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ดีขึ้น

3 มีกรดแล็กติก   ช่วยในการย่อยอาหาร มีกรดอะมิโน และกรดนิวคลีอิก  ทำให้คอมบูชา ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ซ่อมแซมเซลล์กับเนื้อเยื่อในร่างกาย

4 มีกรดกลูคูโรนิก   และสาร DSL   ช่วยส่งเสริมให้ตับขับสารพิษ และสารก่อมะเร็งได้

5 ช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน เพราะคอมบูชา มีสารแอนติออกซิแดนท์สูง ซึ่งจะช่วยต้านอนุมูลอิสระ

6 คอมบูชาออกฤทธิ์กำจัดแบคทีเรีย เพราะมีกรดน้ำส้ม หรือกรดอะซิติกเป็นส่วนประกอบหลัก  ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ยับยั้งการติดเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงเชื้อแคนดิดาซึ่งเป็นยีสต์ชนิดหนึ่งที่เป็นอันตรายต่อคน

7 ควรดื่มก่อน หรือหลังอาหารประมาณ 30 นาที โดยแบ่งดื่มครั้งละ 100 – 150 มิลลิลิตร วันละ 2 – 3 เวลา ช่วงเช้า และบ่าย หรือช่วงเย็น ไม่แนะนำให้ดื่มสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 4 ปี  และการดื่มชาคอมบูชามากเกินไป หรือดื่มคอมบูชาที่มีการผลิตที่ไม่ได้คุณภาพ อาจส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร หรือส่งผลต่อตับได้

เคล็ดลับอื่นๆ อื่นที่คุณอาจสนใจ